วิธีการเลือกใช้วาล์วให้เหมาะสมกับงานควรเลือกแบบไหนมาดูกันคะ
วาล์วนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามการใช้งานหลักๆได้แก่
1. วาล์วที่ใช้ในการเปิด-ปิด (ON-OFF VALVE)
บัตเตอร์ฟลายวาล์ว (Butterfly Valve)
2. วาล์วที่ใช้ในการควบคุมปริมาณการไหล (FLOW REGULATING VALVE)
วาล์วชนิดนี้จะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการควบคุมปริมาณหรืออัตราการไหลของของไหล
บัตเตอร์ฟลายวาล์ว (Butterfly Valve)
3. วาล์วที่ใช้ในการควบคุมทิศทางการไหล (SINGLE DIRECTION VALVE)
วาล์วชนิดนี้จะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการควบคุมทิศทางการไหลของของไหล
สวิงเช็ควาล์ว (Swing Check Valve)
พิสตั้นเช็ควาล์ว (Piston Check Valve)
เพรชชวลเช็ควาล์ว (Pressure Check Valve)
เวเฟอร์เช็ควาล์ว (Wafer Check Valve)
การเลือกใช้งานวาล์วในระบบควบคุมของของไหลแบ่งได้เป็น 3 หน้าที่ได้แก่
1. วาล์วสำหรับหยุดและเริ่มการไหล
วาล์วชนิดนี้มีลักษณะต้านทานการไหลที่ต่ำ เส้นทางของของไหลเป็นเส้นตรง ไม่คดเคี้ยว
2. วาล์วสำหรับการควบคุมอัตราการไหล
3. วาล์วสำหรับการเบี่ยงเบนอัตราการไหล
วาล์วชนิดนี้มักจะมี 3 ช่องทางขึ้นไป ขึ้นอยู่กับหน้าที่การใช้งาน
ชนิดของปลายวาล์วที่ใช้เชื่อมต่อกับที่จะมีทั้งหมด 4 ชนิด
- แบบเกลียวท่อ (Screw-Pipe Thread)
- แบบชนเชื่อม (Butt-Weld)
- แบบสวมเชื่อม (Socket-Weld)
- แบบหน้าแปลนสวมอัด (Flange)
ในการออกแบบหรือติดตั้งจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานให้นานที่สุด
- ความดัน (Pressure) : ได้แก่ ความหนา, การออกแบบ seat, การออกแบบ actuator
- อุณหภูมิ (Temperature) : ได้แก่ โลหะ, การออกแบบseat, เลือกชนิดpacking การยืด หด ขยายตัว
- ปริมาณ (Volume) : ได้แก่ จะให้สามารถต้านการไหลเท่าไร, ลักษณะการไหลเป็นแบบใด (flow pattern), การออกแบบ actuator
- การควบคุม (Control) : ได้แก่ ออกแบบ seat, ออกแบบ stem, ออกแบบ actuator
- ชนิดของของไหล (Type of Fluid) : ได้แก่ น้ำ, น้ำมัน, แก๊ส ไอน้ำ (water, oil, gas, steam)
- สารเจือปน (Purity of Fluid) : ได้แก่ เรื่องสารที่เป็นของแข็งในของไหลที่จะผ่าน วาล์ว ทำให้เกิดการสึกกร่อนได้
- ความเป็นรกรดด่าง (pH) : ได้แก่ การออกแบบให้ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี
- การต้านทานการไหล (Flow Restrictions) : ได้แก่ การออกแบบ วาล์ว ให้มีประสิทธิภาพ